อดีตนายก อบจ.นครศรีฯ บุกร้องอัยการสูงสุดคดีทุจริตเลือกตั้งพี่น้อง “เสนพงศ์” 4 ปี ไม่คืบ

    627

    เดือด!  อดีตนายก อบจ.นครศรีฯ  บุกร้องอัยการสูงสุดคดีทุจริตเลือกตังพี่น้อง”เสนพงศ์” ขั้นตอนสุดท้ายอืดจวนจะ 4 ปีแล้ว ตำรวจ อัยการเห็นต่างหลังส่งคดีอัยการสูงสุดชี้ขาด ร้องขอถึงศาลพิจารณา

    นครศรีธรรมราช – ร้อนฉ่า! น้องชาย “ชินวรณ์” รองหัวหน้า ปชป. บุกร้องอัยการสูงสุดคดีทุจริตเลือกตั้งพี่น้อง “เสนพงศ์” ไม่คืบหน้า ขั้นตอนสุดท้ายอืดจวนจะ 4 ปีแล้ว ตำรวจ อัยการเห็นต่างหลังส่งคดีอัยการสูงสุดชี้ขาด ร้องขอถึงศาลพิจารณา

    วานนี้ (6 ธ.ค.) มีรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เจ้าตัวยังเป็นน้องชายของ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด โดยได้เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้มีความเห็นสั่งฟ้อง นายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งต้องคดีทุจริตเลือกตั้งจนพ้นจากตำแหน่ง และนายเทพไท เสนพงศ์ ในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ร้องทุกข์เป็นคดีอาญาต่อพนักงานงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช

    โดย กกต.นครศรีธรรมราช ได้นำความเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมีหลักฐานสำคัญ คือ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.58 ซึ่งเป็นคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่ นายมาโนช เสนพงศ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งในการทุจริตเลือกตั้ง และในคดีเดียวกัน ยังมี นายเทพไท เสนพงศ์ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดด้วย

    นายพิชัย บุณยเกียรติ เปิดเผยว่า ในคดีนี้ ต่อมา อัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งสอง แต่สำนักงานอัยการภาค 8 โดยอธิบดีอัยการภาค 8 กลับมีความเห็นสั่งฟ้องเฉพาะนายมาโนช แต่สั่งไม่ฟ้องนายเทพไท เสนพงศ์ หลังจากนั้น สำนักงานอัยการภาค 8 ส่งคำสั่งดังกล่าวให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พิจารณาความเห็น ในที่สุด ผู้บังคับบัญชาตำรวจภาค 8 ได้ตั้งกรรมการพิจารณาสำนวน และมีมติเอกฉันท์ เห็นแย้งอธิบดีอัยการภาค 8 โดยเห็นควรสั่งฟ้องนายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ ซึ่งตามขั้นตอนนั้นจะต้องส่งความเห็นแย้งข้างต้นไปยังอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาด

    นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า ด้วยเหตุนี้จึงได้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรม และให้มีความเห็นตามมาตรา 145/1 แห่ง ป.วิอาญา ให้มีความเห็นสั่งฟ้องนายมาโนช และนายเทพไท เสนพงศ์ เนื่องด้วยในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้เคยมีคำพิพากษา และนายเทพไท ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในการจัดเลี้ยงในคราวหาเสียงการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช หลายขั้นตอน ดังนั้น คดีนี้ควรเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลอย่างเที่ยงธรรมเป็นที่สุด

    อย่างไรก็ตาม มีการรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า คดีนี้หลังจากที่นายมาโนช เสนพงศ์ ต้องคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 8 ในคดีทุจริตการเลือกตั้งในประเด็นการจัดเลี้ยงจูงใจ ตั้งแต่ 26 มิถุนายน 2558 เป็นไปตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น และเมื่อคำพิพากษาที่สุดแล้ว กกต.จะต้องนำผลคดีไปร้องต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญาซ้ำอีกครั้ง โดยกระบวนการเริ่มตั้งแต่ปี 2558 จากชั้นพนักงานสอบสวนยาวนานนับปี ทั้งที่มีคำพิพากษาศาลเป็นหลักฐานสำคัญอยู่แล้ว ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาสำนวนของพนักงานอัยการ และมีความเห็นแย้งกันระหว่างฝ่ายตำรวจ และพนักงานอัยการ ยาวนานจวนจะเข้าปีที่ 4 แล้ว แต่คดียังไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลได้

    Cr : ผู้จัดการออนไลน์